สอบบ

การใช้อินเตอร์เน็ตเเละเว็บล็อก

วันอังคารที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2558



วัตถุประสงค์การใช้เว็บบล็อกเพื่อการเรียนการสอน

การใช้เว็บบล็อกเพื่อการเรียนการสอนมีวัตถุประสงค์ดังนี้

1.เพื่อกระตุ้นความสนใจของผู้เรียน

2เพื่อเป็นแหล่งรวบรวมเนื้อหาบทเรียน

3เพื่อเป็นสื่อในการแลกเปลี่ยนความรู้กับบบุคคนอื่น

4เพื่อการติดตามการปฎิบัติงานของผู้เรียน

5เพื่อเป็นสื่อในการเผยแพร่ของผู้เรียน

6เพื่อเป็นสื่อเชื่อโยงในการศึกษากับเว๊บไซร์อื่น

7เพื่อความสนุกเพลิดเพลินของผู้เรียน

8เพื่อฝึกทักษะการใช้คอมพิวเตอร์ในการแสวงหาในการเรียนรู้แหล่งต่าง

ขั้นตอนการสร้างเว๊บบล๊อก

ในการฝึกอบรมเชิงปฎิบัติสำหรับนักศึกษาปีที่1 คณะครุสาสตร์ ในเว๊บบ๊อกของบล๊อกเกอร์

(blogger) ซึ่งเป็นของบริษัท google ประเทศสหรัสอเมริกา อย่างไรก้อตามการสร้างเว๊บบล๊อกท่านต้องมีGmil เป็นของตนเองเสียก่อน จากนั้นจึงใช้ Emaill สมัครเข้าไปสร้างเว๊บบล๊อกได้ จีเมลที่ควรใช้กับล๊อกเกอร์ควรเปนจีเมลของกูเกิ้ลเช่นเดียวกัน

ขั้นตอนการสมัครใช้บันชีจีเมล เป็นช่องทางการสื่อสารอีเลกโทรนิค ช่องทาง1บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต

มิติรของสีกลมกลืน

1.สีกลมกลืน(harmony) เหมาะกับการใช้สำหรับเนื้อหาที่มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เป็นพวกเดียวกัน ประสานสอดคล้องกันได้ดี การใช้สีกลมกลืนเป็นเลือกที่มีตำแหน่งใกล้เคียงกันในวงล้อสี หรือในจานสีที่กำหนดในคอมพิวเตอร์ เช่นดำ น้ำตาล แดง ส้ม เหลือง หรือดำน้ำเงินเขียวแก่ เขียวอ่อน เหลือง เป็นต้น

2.สีตัดกัน(contrast) เป็นการเลือกใช้สีที่มีตำแหน่งห่างกันในวงล้อสีหรือ จานสีที่กำหนดไว้ในคอมพิวเตอร์ สีตัดกันเหมาะกับเนื้อหาที่มีความแตกต่างกัน ขัดแย้ง แสดงความรุ่นแรง ความลึกลับ ความตื่นเต้น ตัวอย่างของสีที่ตัดกัน เช่นแดงเขียว แดงน้ำเงิน แดงดำ ขาวดำ ส้มดำ ม่วงเหลือง เหลืองดำ ส้มน้ำเงิน เป็นต้น

มิติของสีโทนร้อนและสีโทนเย็น

1.สีโทนร้อน(warm tone) เหมาะกับเนื้อหาสาระที่ให้ความรู้สึกตื่นเต้นหวาดเสี่ียว รุ่นแรงไม่สงบ เด็ดเดี่ยว มีอำนาจการใช้สีโทนร้อนสามารถทำให้เป็นสีกลมกลืนหรือสีตัดกันก็ได้

2.สีโทนเย็น(cool tone) เหมาะกับเนื้อหาที่ให้ความรู้สึกสบายเป็นกันเอง ร่มเย็น อบอุ่น สงเรียบง่าย ปลอดภัย การใช้สีโทนเย็นสามารถทำให้เป็นสีกลมกลืนหรือตัดกันก็ได้

มิติรของสีมืดและสีสว่าง

1.สีมืด(shade) ส่วนไหญ่เกิดจากสีแท้ (hue) ผสมกับสีดำไห้ความรุู้้สึกลึกลับ น่ากลัว หนักแน่น บึึกบึน ซ้อนเล้นสงสัย ไม่กระจ่าง

2สีสว่าง(tint) เป็นสีเกิดจากสีแท้(hue) ผสมกับสีขาวไห้ความรู้สึกกว้างขวาง เบิกบาน เป็นกันเอง

ไสสอาด ปลอดภัย เทคนิคการไช้สีเพื่อการสื่อความหมาย

การไช้สีกับข้อความเนื้อหาที่ต้องการไห้ผู้สามารถอ่านได้ง่ายและชัดเจน ควรยึดหลักที่ว่า สีพื้นเข้มต้องไห้สีตัวอัการอ่อนแต่ในทางกับกันถ้าสีพื้นเป็นสีอ่อนต้่องไห้สีตัวอักษรเข้มต้องหลีดเลี่ยง เ้ช่น พื้นสีขาวตัวอักษรสีเหลืองว สีส้ม หรือพื้นสีน้ำเงินเข้มตัุวอักษรสีดำ สีเขียวเข้ม สีน้ำตาล เป็นต้น

การไช้สีในเว็บบล็อค

การไช้สีเพื้อการตกแต่งเว็บบล็อค โปรแกรมได้กำหนดไว้ในส่วนปรับแต่ง แบบอักษรและสี มีองค์ประกอบที่เกี่ยวข้องได้แก่ จานสีหรือแถบสีด้วยสีมืดและสีสว่างนอกจากนี้ยังมีส่วนที่บรรทึกสีที่เราไช้อยู่กับเว็บบล็อคในปัจจุบันและสีที่โปรแกรมคำนวนไว้ที่กลมกลืนกับสีเดิมได้ด้วย

วันอาทิตย์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557



1.องค์ประกอบของการสื่อสารมี 4 ประการคือ

1.ผู้ส่งสาร 2.สาร 3.ช่องทางการสื่อสาร 4.ผู้รับสาร

2.จงบอกความหมายของ "การสื่อสารข้อมูล"

หมายถึง การที่ระบบเคลื่อข่ายมีบทบาทและความสำคัญเพิ่มขึ้น เพิ่มขีดความสามารถของระบบให้สูงขึ้น เพิ่มการใช้งานด้านต่างๆและลดต้นทุนระบบโดยรวม

3.จงยกตัวอย่างอุปกรณ์ที่ใช้ในกาารสื่อสารข้อมูลคอมพิวเตอร์

3.1 เซิร์ฟเวอร์(Sewer) คือ เครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ใช้สำหรับทำหน้าที่บริการสิ่งต่างๆกับไมโครคอมพิวเตอร์

3.2 ไคลเอนต์(Client) คือ เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ไปร้องขอบริการและรับบริการอย่างใดอย่างหนึ่งจากServer

server คือเครื่องคอมพิวเตอร์หรือระบบปฏิบัติการหรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ที่ทำหน้าที่ให้บริการอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่าง โดยอาศัยโปรแกรม Web server แก่เครื่องคอมพิวเตอร์หรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่เป็นลูกข่าย ในระบบเครื่อข่าย


3.3 ฮับ (Hub) คือ Hub (ฮับ) หรือบางทีก็เรียกว่า "รีพีตเตอร์ (Repeater)" คือ อุปกรณ์ที่ใช้เชื่อมต่อกลุ่มของคอมพิวเตอร์ Hub มีหน้าที่รับส่งเฟรมข้อมูลทุกเฟรมที่ได้รับจากพอร์ตใดพอร์ตหนึ่งไปยังทุก ๆ พอร์ตที่เหลือ คอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อเข้ากับ Hub จะแชร์แบนด์วิธหรืออัตราข้อมูลของเครือข่าย ฉะนั้น Hub ยิ่งมีคอมพิวเตอร์เชื่อมต่อเข้ากับ Hub มากเท่าใด ยิ่งทำให้ แบนด์วิธต่อคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องลดลง ในท้องตลาดปัจจุบันมี หลายชนิดจากหลายบริษัท ข้อแตกต่างระหว่าง Hub เหล่านี้ก็เป็นจำพวกพอร์ต สายสัญญาณที่ใช้ ประเภทของเครือข่าย และอัตราข้อมูลที่ Hub รองรับได้


3.4 เราเตอร์ (Router) คืออุปกรณ์ที่ทำหน้าที่เชื่อมต่อระบบเคลื่อข่ายอย่างหนึงซึ้งถ้าแปลความหมายก็คือ ถนน


3.5 บริดข์ (Bridge) คือ อุปกรณ์เชื่อมโยงเครื่อข่ายของเครื่อข่ายแยกจากกัน


3.6 เกตเวย์(Gateway) คือ ประตูสัญญาณที่ต่อเชื่อมไว้ระหว่างเครื่อข่ายคอมพิวเตอร์ที่ใช้คอมพิวเตอร์ต่างตระกูลกัน


3.7 โมเด็ม(Modem) คือ การแปลงสัญญาณดิจิตอลจากเครื่องคอมพิวเตอร์ต้นทางให้กลายเป็นสัญญาณอานาลอกแล้วส่งไปตามสายโทรศัพท์


4.เครื่อข่ายชนิดใดมีขนาดใหญ่ที่สุด

เครื่อข่ายอินเตอร์เน็ต


5.จงบอกประโยชน๋ของเครื่อข่ายคอมพิวเตอร์





กลุ่มของคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่ถูกนำมาเชื่อมต่อกันเพื่อให้ผู้ใช้ในเครื่อข่ายสามารถติดต่อสื่อสารแลกเปลี่ยนข้อมูลและใช้อุปกรณ์ต่างๆ ในเครื่อข่ายรวมกันได้


6.นักเรียนเคยใช้วัสดุอุปกรณ์อะไร ในการสื่อสารข้อมูลบ้าง


โทรศัพท์ คอมพิวเตอร์

7.จงยกตัวอย่างชนิดของเครือข่ายคอมพิวเตอร์พร้อมกับระบุคุณสมบัติ

7.1 LAN ย่อมาจาก Local Area Network คือระบบเครือข่าย


ฉบบเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เข้าด้วยกันในระยะจำกัด เช่น ในอาคารเดียวกัน

7.2 wan เป็นเครือข่ายเชื่อมโยงกันในระยะทางที่ห่างไกลซึ่งอาจมีพื้นฐานการเชื่อมต่อจาก LAN ภายในองค์กรแล้วขยายให้มีการเชื่อมต่อที่กว้างขึ้น ซึ่งระยะทางในการเชื่อมต่อกันนั้นจะไกลหลาย ๆ กิโลเมตร

7.3 MAN (metropolitan area network) เป็นเครือข่ายที่ติดต่อภายในของผู้ใช้ด้วยทรัพยากรคอมพิวเตอร์ ในด้านพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ หรือภูมิภาคขนาดใหญ่กว่าเครือข่ายแบบ LAN แต่เล็กกว่าเครือข่ายแบบ WAN คำนี้ใช้กับการติดต่อภายในเครือข่ายในเมืองเป็นเครือข่ายเดี่ยวขนาดใหญ่

7.4 PAN คือ ครือข่ายส่วนบุคคลขนาดเล็ก (PAN) สำหรับ Bluetooth คือ เทคโนโลยีที่ช่วยให้คุณสามารถสร้างเครือข่ายอีเทอร์เน็ตด้วยการเชื่อมโยงแบบไร้สายระหว่างแล็ปท็อป โทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์มือถือ

7.5 CAN ย่อมาจาก Controller Area Network หมายถึง การควบคุมพื้นที่เครือข่าย

(การนำคอมพิวเตอร์ตั้งแต่ 2 เครื่องขึ้นไปมาเชื่อมต่อเข้าด้วยกันเพื่อใช้ข้อมูล


7.6 SAN คือ ปัญหาปกติของการจัดเก็บข้อมูลที่มีความสำคัญมากๆ คือปัญหาทางด้านความเร็ว และความทนทานของข้อมูล เนื่องจาก Hard Disk ทั่วๆ ไป


7.7 INTRANET คือ อินทราเน็ต คือ ระบบเครือข่ายภายในองค์กร เป็นระบบที่ได้การกล่าวขวัญถึงกันอย่างมากคู่กับอินเตอร์เน็ต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในองค์กรต่าง ๆ ได้มีการนำอินทราเน็ตมาใช้กันอย่างแพร่หลาย จนทำให้ระบบที่เกี่ยวกับอินทราเน็ตเป็นระบบที่ผู้ค้าต่าง ๆ มุ่งเข้ามาสู่กันมากที่สุด


7.8 เครือข่ายภายนอกองค์กร หรือ เอกซ์ทราเน็ต (Extranet) คือระบบเครือข่ายซึ่งเชื่อมเครือข่ายภายในองค์กร หรือ อินทราเน็ต (Intranet) เข้ากับระบบคอมพิวเตอร์ที่อยู่ภายนอกองค์กร เช่น ระบบคอมพิวเตอร์ของสาขาของผู้จัดจำหน่าย หรือของลูกค้า เป็นต้น โดยการเชื่อมต่อเครือข่ายอาจเป็นได้ทั้งการเชื่อมต่อโดยตรงระหว่าง 2 จุด หรือการเชื่อมต่อแบบเครือข่ายเสมือน (Virtual Network) ระหว่างระบบอินทราเน็ตหลาย ๆ เครือข่ายผ่านอินเทอร์เน็ตก็ได้


7.9 Internet คืออะไร

อินเทอร์เน็ต คือ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกันเป็นจำนวนมาก ครอบคลุมไปทั่วโลก แตกต่างกับ Intranet ซึ่งเป็นเครือข่ายที่ไม่ครอบคลุมทั่วโลก อินเทอร์เน็ตนั้นอาศัย โครงสร้างระบบสื่อสารโทรคมนาคม เป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนข้อมูล มีการประยุกต์ใช้งานหลากหลายรูปแบบ อินเทอร์เน็ตเป็นทั้งเครือข่ายของคอมพิวเตอร์ และเครือข่ายของเครือข่าย เพราะอินเทอร์เน็ต ประกอบด้วยเครือข่ายย่อย เป็นจำนวนมากต่อเชื่อมเข้าด้วยกันภายใต้มาตรฐานเดียวกันจนเป็น เครือข่ายขนาดใหญ่ อินเทอร์เน็ตเป็นเครือข่ายสาธารณะที่ไม่มีผู้ใดเป็นเจ้าของ ทำให้การเข้าสู่เครือข่ายเป็นไปได้อย่างเสรี อินเตอร์เน็ต ถือเป็นระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์สากลที่เชื่อมต่อเข้าด้วยกัน ภายใต้มาตรฐานการสื่อสารเดียวกัน เพื่อใช้เป็นเครื่องมือสื่อสารและสืบค้นสารสนเทศจากเครือข่ายต่างๆ

วันอาทิตย์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557



weblogคืออะไร........

........blogg มาจากคําว่า world wide หมายถึง เครื่อข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่เชื่อมโยงทั่วโลก คําว่า  gogรวมกันเป็น weblog ประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ได้กับงานแทบทุกวงการ
........การสร้างสรรค์เว็บบล็อกให้กับผลงานเว็บบล็อกได้รับความนิยมทั่วโลกจึงมีหลายบริษัทสร้างสรรค์องค์ประกอบต่างๆ ที่ใช้ในการตกแต่งเว็บบล็อกให้สวยงามโดยการเขียนโค้ดหรือสคริปต์สิ่งต่างๆเช่นคน การ์ตูน สัตว์ พืช ดอกไม้ สิ่งของต่างๆทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวให้สามารถนำไปใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องมีความรู้ในการเขียนโปรแกรมแต่อย่างใด ช่วยให้การสร้างสรรค์เว็บบล็อกสะดวกและง่ายขึ้นเพียงแต่คัดลอกโค้ดมาว่างในเว็บบล็อกของตัวเองรูปภาพนั้นก็จะแสดงผลทันที
........ข้อดีของเว็บบล็อกมีหลายประกา่รคือ
........1.ใช้เป็นเว็บส่วนตัวหรือเว็บสาธารณะก็ได้
........2.ไม่ต้องใช้ชั้นสูงก็สามารถภทำได้
........3.ไม่ต้องขอพื้นที่บนเครือข่ายอินเตอร์เน็ตเหมือนเว็บไซต์ทั่วไป
........4.สามารถบรรจุภาพนิ่งเสียงและภาพเคลื่อนไหวเหมือนเว็บไซต์ทั่วไปได้
.......5.สามารถใช้งานหรือปรับแต่งให้สวยงามได้ด้วยตนเอง
.......6.นำมาประยุกต์ใช้กับการเรียนการสอนได้ดี
.......7.สำหรับเว็บบล็อกสามารถบรรจุบทความได้มากถึง999บทความ
.......8.สามารถแทรกองค์ประกอบต่างๆที่เป็นประโยชน์กับการทำงานได้หลายอย่างเช่น ตัวเลขนับผู้ชม(counter)กระดานข่าว(web board)สไลด์ slide คริปวีดิทัด(videoclip)เป็นต้น
......9.สามารถกำหนดผู้ชมได้ตามที่ต้องการ
......10.สามารถเชื่อมโยงกับเว็บไซต์อื่นๆได้ตามต้องการ
         ในวงการศึกษาสามารถนำเว็บบล็อกมาประยุกต์ใช้กับการเรียนการสอนได้เป็นอย่างดีเนื่องจากเว็บบล็อกจะทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างผู้สอนผู้เรียน ผู้เรียนกับผู้เรียน ผู้เรียนกับบุคคลอื่นได้ตามเวลาและทุกสถานที่ที่มีอินเตอร์เน็ตใช้ทำให้กระบวนการเรียนการสอนดำเนิดได้ตลอดเวลาตามความพร้อมของสิ่งแวดล้อมและความต้องการของผู้สอนกับผู้เรียน ด้านเนื้อหาบทเรียนผู้เรียนสามารถค้นคว้าที่สอดคล้องกับบทเรียนได้จากเว็บไซต์อื่นได้








































































































































































































































































































































รู้
. ขั้นตอนการสร้างเว็บบล็อก